บทสัมภาษณ์พิเศษ บรูโน่ เฟอร์นานเดส

บรูโน่ เฟอร์นานช์ ตอบ Melissa Reddy ผู้สื่อข่าว Sky Sports หลายประเด็นด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องราวภายในห้องแต่งตัว , ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เป้าหมายของรูเบน อโมริม และความสำคัญในเกมนัดต่อไปกับ เซาธ์แฮมป์ตัน

[ทำไม จอชัว เซิร์กซี ต้องยิงจุดโทษเป็นคนที่ 5 ในเกมกับอาร์เซน่อล?]

“ผมอยากให้ทุกคนมีความสุข และมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสุขนี้”
“เมื่อคุณอยู่ในช่วงเวลาที่ดี ผมอยากแบ่งปันมันให้กับนักเตะคนอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่ได้ต้องการมัน แต่นักเตะทุกคนก็ต้องการคำชื่นชม และช่วงเวลาที่มีความสุข นั่นคือแนวทางการใช้ชีวิตของผม”
“ผมคิดว่า สำหรับทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จ ทุกคนต้องมีความสุขในระดับที่เท่าๆ กัน แม้จะรู้ว่าบางคนอาจได้เล่นน้อยกว่าคนอื่น แต่คุณก็ต้องพยายามหาทางผลักดันพวกเขา เพื่อให้พวกเขารู้ว่า พวกเขาสำคัญไม่แพ้กัน”
“เรื่องจุดโทษของจอชัว เซิร์กซี เราวางแผนแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว”
“เมื่อคุณเป็นคนที่ดี และทำในสิ่งที่ถูกต้อง คุณอาจจะมีช่วงเวลาที่แย่ แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างจะทำให้คุณแกร่งกว่าเดิม”
“มันคือการตัดสินใจของทีมสต๊าฟฟ์ในการเลือก 5 คนไปยิงจุดโทษกับอาร์เซน่อล พวกเขาเลือก จอช เป็นคนสุดท้าย”
“สิ่งที่อยู่ในหัวผมตอนนั้น ผมบอกกับทุกคนว่า สคริปต์ทุกเขียนไว้แล้ว มันเสร็จตั้งแต่ตอนนั้้นแล้ว”
“ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับจอช (ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วในเกมกับนิวคาสเซิ่ล) ทำให้จอช มีวินาทีนี้ มันเป็นช่วงเวลาและคำชื่นชมของเขา”
“เราอาจจะพูดในสิ่งที่คนอื่นๆ อยากจะพูดเช่น จุดโทษเหรอ? ยิงง่ายๆ นี่ แต่เราพูดถึงเส้นทางกว่าจะได้ไปยิงจุดโทษ”
“อัลทาย บายินดีร์ เซฟจุดโทษในช่วงเวลาปกติจากมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ยังไม่เคยพลาดการสังหารเลย และจากนั้น จอช กับช่วงเวลาที่กดดันมากๆ ก็ลุกขึ้นมายิงและทำให้ทีมชนะ”

[พูดถึง อโมริม และความเข้าใจต่อระบบ]

“คือบางทีการที่คุณมีเวลาฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับเกมมากขึ้นมันเป็นเรื่องที่ดีนะ เราได้เวลาฝึกซ้อมมากขึ้นก่อนเกมลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล”
“และผู้จัดการทีมบอกสิ่งนี้กับเรา มันเกี่ยวกับแพสชั่น , ความกระหาย ทุกอย่างที่คุณใส่ลงไปในเกม คุณต้องการเอาชนะเกมนี้แค่ไหน”
“ผมคิดว่าทุกคนรู้ว่าเขาต้องการอะไร และเรียกร้องจากเราทั้งการยืนตำแหน่ง , ความเข้าใจแท็กติก และทุกอย่างเลย ผมคิดว่าเรากำลังเข้าใจถึงมาตรฐานที่เขาต้องการ , การวิ่งมากขึ้น , ความต้องการที่จะเอาชนะ”
“ผมคิดว่าเรายังต้องพัฒนาขึ้นอีกในมุมของผม แต่เราจะทำ และผมมั่นใจว่าเรากำลังไปถูกทาง”
“แต่เรากำลังมีเกมสำคัญที่ทุกคนจะมองต่างกันออกไป ผู้คนอาจจะบอกว่า พวกเขาจะเจอ เซาธ์แฮมป์ตันในบ้าน พวกเขาจะชนะแน่นอน”
“แต่คุณไม่สามารถมองแบบนั้นได้ เพราะเซาธ์แฮมป์ตันต่างก็ต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขาเหมือนกัน”

[การที่อโมริมพูดว่า ทีมมีโอกาสตกชั้น มันเป็นการปลุกไฟนักเตะหรือไม่?]

“ไม่เลย ไม่ๆ เอาจริงๆ ผมเข้าใจที่ ผู้จัดการทีมจะสื่อในตอนนั้น และที่ลิช่า (มาร์ติเนซ) พูดนั้นถูกต้อง มันเกี่ยวกับทัศนคติ”
“คุณลงไปเล่นกับลิเวอร์พูล คุณรู้ว่านั่นคือเกมใหญ่ คุณต้องเตรียมตัวทุกรายละเอียด สมาธิของคุณจะอยู่กับทุกรายละเอียดที่ผู้จัดการทีมบอกคุณ ทุกการเคลื่อนไหว ทุกอย่างที่คุณทำ ทุกอย่างที่คุณซ้อมมา”
“แต่มันจะมีบางเกมที่คุณไม่ได้เจอกับทีมใหญ่ และคุณคิดว่า คุณไม่ต้องไปใส่ใจกับมันมากก็ได้ และคุณก็จะเสียสมาธิไป 5 วินาที แต่ 5 วินาทีนั่นมันก็เกินพอแล้วสำหรับทีมใดก็ตาม (ที่จะยิงประตูใส่เรา)”
“เซาธ์แฮมป์ตันคือทีมที่จะไม่ปล่อยให้เราหลุดสมาธิแม้กระทั่งแค่ 5 วินาที เพราะพวกเขามีนักเตะที่ดีและมีคุณภาพ”
“พวกเขาควรมีแต้มมากกว่าที่มีอยู่ในตารางในตอนนี้ ผมไม่ได้บอกว่าพวกเขาเป็นทีมใหญ่นะ หรือบอกว่าพวกเขาดีกว่าเรา หรือบอกว่าเราไม่ควรชนะเกมนี้.
“เราต้องชนะ และต้องใส่ใจกับทุกรายละเอียด ทุกวินาทีตลอดทั้งเกม เพราะถ้าเราทำแบบนั้นกับทุกอย่าง การเตรียมพร้อมสำหรับเกมๆ นั้น , แท็กติก , เทคนิค ถ้าเราทำในสิ่งที่ทำตอนนี้ ผมมั่นใจว่าเราจะชนะเกมนี้แน่นอน”

[อโมริม ยืนยัน ต้องทำประตูเพิ่ม]

“ผู้จัดการทีมบอกกับเราชัดเจน ว่าเราต้องการทำประตูเพิ่ม และนั่นคือความจริง เราคือทีมที่มีศักยภาพพอที่จะทำประตูได้”
“ผมรู้ว่าเรามีนักเตะวัยหนุ่มมากมาย แต่เราก็มีคุณภาพ และเราต้องยิงประตูเพิ่มขึ้น ราสมุส ฮอยลุนด์ มีคุณสมบัตินั้น เช่นเดียวกับ จอช (เซิร์กซี) และ อามาด (ดิอาโล่)”
“เช่นเดียวกับการ์นาโช่ , แรชชี่ (มาร์คัส แรชฟอร์ด) , แอนโทนี่ , ผม หรือแม้แต่มิดฟิลด์ที่ยืนต่ำอย่างค็อบบี้ (เมนู) , มานู (มานูเอล อูการ์เต้) , คาซา (คาเซมิโร่) และคริสเตียน (เอริคเซ่น) พวกเขามีศักยภาพในการทำประตู”
“ฉะนั้น เรามีผู้เล่นที่มีศักยภาพในการผลิตสกอร์ได้ อย่างเมื่อวานนี้ คาร์ลอส เฟอร์นานเดซ (ผู้ช่วย อโมริม) เข้ามาคุยกับผมก่อนเกม บอกผมว่า เราต้องการความกระหายในการวิ่งเข้ากรอบเขตโทษมากกว่านี้”
“เมื่อเราอยู่ในจังหวะโต้กลับ เราต้องวิ่งมากขึ้น และประตูจะมาจากตรงนั้น”
“(ประตู 1-0 กับอาร์เซน่อล) ดิโอโก้ (ดาโล่ต์) โหม่ง จากนั้น การ์น่า ก็ได้บอลจากกาเบรียล มากัลเยส ตอนนั้นผมคิดแค่ว่า ให้วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการ์น่า เร็วมาก และเขาจะไปถึงตรงนั้นก่อนคุณ เพราะคุณต้องทำประตูให้ได้”
“และความกระหายในการป้องกันประตู ก็ต้องไม่ต่างกันกับการยิงประตู และนั่นคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมต้องการให้เราปรับ ผมคิดว่าเรามีหลายอย่างต้องพัฒนา และคุณภาพของเราสามารถยิงประตูให้กับทีมได้มากกว่าที่เรากำลังทำอยู่ เรายังไม่ไปถึงมาตรฐานที่เราตั้งไว้”

[กับตารางคะแนนที่อันดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น]

“มันง่ายมากที่เมื่อพอคุณไม่ได้ผลการแข่งขัน เมื่อคุณไม่มีฟอร์มการเล่นที่ดี คุณจะสูญเสียความเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณทำ”
“แต่ผมคิดว่า การพยายามเชื่อมั่นในสิ่งที่เรากำลังทำต่อไป เป็นสิ่งที่ดีสำหรับทีม เชื่อมั่นในสิ่งที่เราซ้อม เชื่อมั่นในสิ่งที่จะลงไปในสนาม สิ่งที่ทีมโค้ชต้องการให้เราลงไปเล่นเป็นทีม พัฒนาทั้งทีม”
“นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราได้เครดิตมากขึ้น เพราะเราก็ทำในสิ่งเดียวกับที่ทุกคนคิดว่า ‘โอ้ ผู้จัดการทีมต้องเปลี่ยนจากหลัง 3 เป็นหลัง 4 มันไม่เวิร์คหรอก เราต้องการศูนย์หน้าตัวใหม่ อะไรแบบนี้”
“คุณรู้ไหม ทุกครั้งที่คุณแพ้ หรือบางอย่างไม่เป็นไปตามที่คาด ทุกคนย่อมมีความเห็นว่าคุณควรทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป แต่เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการทีมมีไอเดียของเขา และเราเข้าใจ”
“สิ่งที่เราเข้าใจ ณ ตอนนี้คือ ผู้จัดการทีม เชื่อมั่นในสิ่งนั้นจริงๆ และทำไมนักเตะจะต้องไม่เชื่อมั่นล่ะ?”
“ฉะนั้นทุกสิ่งที่เขาบอกกับคุณ เขาพยายามถ่ายทอดให้กับคุณ ทั้งเขาและทีมโค้ช เขาทำมันด้วยความเชื่อ เชื่อในสิ่งที่ทำ”
“แม้กระทั่งในเกมที่เราเสียประตู หรือเจออุปสรรค เขาแค่ต้องการให้เราเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไร และเราจะได้ผลการแข่งขันเมื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
“และนั่นคือสิ่งที่สำคัญมากๆ ในช่วงเวลานี้ที่เราเก็บผลการแข่งขันได้ยาก อย่างที่คุณบอก มันยากมากตอนที่เราไม่ชนะเกมการแข่งขัน แต่มันก็จะยอดเยี่ยมไม่แพ้กันถ้าคุณเอาชนะเกมเหล่านั้นได้”
“ฉะนั้นเราก็ต้องเข้าใจว่า ถ้าเรารักษามาตรฐานเอาไว้ได้ รักษาฟอร์มการเล่น และผลการแข่งขัน แฟนๆ จะหนุนหลังเรา จะผลักดันเรา เช่น 8,000 คนที่เอมิเรตส์เมื่อวันอาทิตย์”
“เราต้องดึงสิ่งที่เราเคยทำได้ในอดีต ที่ทุกทีมจะต้องกลัวว่าแมนฯ ยูไนเต็ดจะยิงใส่ ทุกวินาที เราต้องนำมันกลับมาร่วมกับแฟนๆ กับความอดทนที่เราต้องช่วยกันเป็นทีม เชื่อมั่นในกระบวนการ”
“เราต้องการให้แฟนๆ มีความอดทน เชื่อมั่นในตัวผู้เล่น เพราะพวกเราสามารถทำได้ พวกเขา (แฟนๆ) เคยเห็นมันมาแล้ว”
“เราเองก็ต้องพิสุจน์ให้ได้ว่าเราจะทำมันได้ทุกๆ 3 วัน และเราจะสู้เพื่อมัน และเราต้องการให้แฟนๆ หนุนหลังเราในการลงไปลุยในสนาม”